เจ้าชายรองแชมป์

มิชาเอล บัคลัค ชายผู้มีวาสนาได้แค่พระรอง เพราะหากจะมองจากความสามารถในการเล่นฟุตบอลของเค้านั้น ตัวเค้าเองสามารถที่จะเป็นผู้นำและพาทีมคว้าแชมป์ได้มากมาย แต่เหมือนโดนต้องคำสาป เพราะชายผู้นี้กลับทำได้แต่คำว่ารองแชมป์ ซึ่งในอาชีพนักฟุตบอล หากมีการวัดสถิติกันนั้นว่านักเตะคนไหนคว้ารองแชมป์มากที่สุดในโลก ก็ต้องบอกว่า ชายที่ชื่อ 

มิชาเอล บัคลัค นี้แหละ เพราะตัวเค้าเองนั้น คว้ารองแชมป์ถึงแปดรองแชมป์ ด้วยปี 2002 นั้น ตัวบัคลัคเอง คว้ารองแชมป์กับสโมสรไบเออร์เลเวอร์คูเซ่น ในถ้วยบุนเดสลีกา ถ้วยเดเอฟเอโบคาล และถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ก่อนจะปิดท้ายในปีนั้น กับรองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002

ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าในปีนั้น บัคลัค เข้าชิงถึงสี่รายการ แต่คว้ารองแชมป์ทั้งสี่รายการ โดยรายการที่น่าเจ็บใจที่สุดคงจะเป็นรายการฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ที่โดนฤทธิ์เดชของ ซีเนอดีน ซีดาน วอลเลย์เข้าไปอย่างสุดสวย ก่อนที่จะไปช้ำใจอีกครั้งด้วยการพาทีมลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นร่วมกันจัดกันเป็นเจ้าภาพ

ซึ่งตัวบัคลัคเองนั้นเป็นกำลังหลักสำคัญพาทีมชาติเยอรมัน ตะลุยตั้งแต่รอบแรก ยันทะลุเข้าชิงกับทีมชาติบราซิล สุดท้ายในนัดชิงชนะเลิศนั้น เค้าต้องนั่งดูอย่างข้างสนามเพราะโดนโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ จึงไม่ได้ลงเล่นนัดชิง และสุดท้ายก็เป็นเยอรมันที่พลาดท่าพ่ายทีมชาติบราซิลไป ศูนย์ประตูต่อสอง และพอมาปี 2008 หลังจาก มิชาเอล บัคลัค ย้ายไปร่วมทีมเชลซี เค้าก็ยังคงทำสถิติในปีนั้นได้อีก สี่รองแชมป์อีกครั้ง ด้วยการได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีก รองแชมป์ฟุตบอลลีกคัพ รองแชมป์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก และสุดช้ำกับรองแชมป์ฟุตบอลยูโร 2008 กับทีมชาติเยอรมัน ด้วยการพ่ายต่อเสปน

ทำให้เค้านั้นชวดแชมป์ไปอีกเป็นครั้งที่แปด จนมาฟุตบอลโลกในปี 2010 ที่ตัว บัคลัคเองนั้น ถูกวางไว้ว่าต้องเป็นกัปตันทีม พาลูกทีเยอรมันไปลุยศึกฟุตบอลโลกหนนี้ แต่สุดท้ายก่อนฟุตบอลจะเริ่ม บัคลัค เองได้รับบาดเจ็บในการแข่งขันนัดชิงฟุตบอลเอฟเอคัพ กับปอร์ทสมัธ จึงทำให้ตัวบัคลัค เองนั้นต้องหลุดทีมชาติเยอรมันนี ไป และหมดโอกาสไปร่วมทีมชาติลุยศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้

และสุดท้ายการที่เค้าไม่ได้ไปฟุตบอลโลกครั้งนี้ กลับกลายเป็นว่าทีมชาติเยอรมันที่ขาด ชายผู้นี้นั้น กลับทำได้ดี และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความอาภัพของ บัคลัค จริงๆ ที่เป็นได้แค่รองแชมป์ตลอด

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ข่าวกีฬา และติดป้ายกำกับ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร