หากจะเอ่ยถึงแมนยูไนเต็ด ในยุคของตำนานอันเกรียงไกร
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ผู้ชายที่มีนามว่า เอริค คันโตน่า ก้าวขึ้นมาเหมือนกับยุคการสร้างทีมของ ท่านเซอร์ อเล็กเฟอร์กูสัน ในยุคแรกๆ เลยทีเดียว ด้วยบุคลิกความเป็นผู้นำ
และมาดที่ดูเท่ห์และองอาจประกอบกับคาแรกเตอร์ที่มักจะเอาปกคอเสื้อตั้งขึ้นยามลงเตะฟุตบอล จนทำให้เป็นคาแรกเตอร์นักฟุตบอลหลายๆคนในยุคนั้นมักเลียนแบบและทำตาม ซึ่งต้องบอกว่าชายชาวฝรั่งเศสคนนี้ มีพรสวรรค์ และมีความเป็นตัวของตนเองสูงมาก
คันโตน่า เกิดที่มาร์เซย์ ในปีหนึ่งเก้าหกหก และเริ่มเป็นนักฟุตบอลกับสโมสรโอแซร์ แต่ด้วยความอารมณ์ร้อน จึงทำให้เค้าไม่ประสบความสำเร็จที่ฝรั่งเศส ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่อังกฤษ และย้ายมาอยู่กับทีมลีดส์ยูไนเต็ด และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งในปีหนึ่งเก้าเก้าสอง ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น พรีเมียร์ชิพในปัจจุบัน
และด้วยความสามารถและพรสวรรค์รวมถึงอารมณ์ของเค้าทำให้เค้ามีปัญหากับ โฮเวิรด์ วิลกินสัน ก่อนที่จะถูกซื้อไปอยู่กับสโมสรที่เริ่มทำให้เค้าเป็นตำนานในปัจจุบัน นั่นคือสโมสรแมนยูไนเต็ด ซึ่งนั่นถือเป็นการเริ่มต้นยุคแห่งความสำเร็จของผีแดงเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเค้าย้ายมา คันโตน่า ถือเป็นต้นแบบของนักเตะเยาวชนในยุคนั้น
ซึ่งประกอบไปด้วย เดวิด เบ็คแฮม พอลโสคล์ นิกกี้บัต แกรี่ เนวิลล์ จนทำให้เค้าเหล่านี้เลียนแบบและกลายเป็นนักเตะกำลังสำคัญในยุคต่อมากันเลยทีเดียว โดยเฟอร์กูสัน ถึงกับพูดว่า คันโตน่า เหมือนคบเพลิงที่จุดประกายให้กับนักเตะดาวรุ่งเลยทีเดียว ซึ่งตลอดเวลา ที่คิง เอริค คันโตน่า รับใช้สโมสรผีแดงนั้น
เค้าพาทีมเค้าแชมป์พรีเมียร์ชิพ ถึงสี่สมัย และเอฟเอคัพถึงสองสมัย โดยเฉพาะปีแรกที่เค้ามาร่วมทีมนั้น ที่เค้าพาทีมก้าวเข้าสู่ความสำเร็จ พาทีมได้แชมป์แรกในยุคการคุมทีมของเฟอร์กูสัน นั่นคือสาเหตุที่ เซอร์ อเล็กเฟอร์กูสัน ให้เกียรติ คันโตน่า
และรักคันโตน่ามาก ถึงขนาดที่เจ้าตัวเองเคยก่อวีรกรรมระดับโลก ที่ได้ไปกระโดดถีบกองเชียร์คริสตัล พาเลซ จนถึงขนาดโดนแบนไปเก้าเดือน แต่ไม่มีคำด่า ทั้งต่อหน้าและลับหลังจากเฟอรกูสัน ถึงคันโตน่าเลย
ซึ่งจริงๆแล้ว ออกมาจะปกป้องกันเสียด้วยซ้ำ เพราะสิ่งที่เค้าทำให้กับสโมสรนั้น มันมากเกินกว่าความผิดที่เค้าทำไว้ในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า คันโตน่า เป็นคนที่มีอีโก้สูงเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่เค้าเป็นอย่างนี้ มันกลับเป็นพลังที่ทำให้นักเตะรุ่นหลัง กล่าวมาสู่ความสำเร็จจนถึงปัจจุบันนี้