กติกาใหม่ในพรีเมียร์ลีก

หลังจากเทคโนโลยี โกล์ไลน์และ VAR

ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในเกมกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน และรองรับการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่การแข่งขันลีกของแต่ละประเทศ การแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปทุกถ้วยที่มีการแข่งขัน การแข่งขันฟุตบอลระดับชาติ เช่นฟุตบอลโลก หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือแม้แต่ฟุตบอลทีมชาติระดับเยาวชน

ซึ่งถือว่านับเป็นเรื่องดี ที่ทำให้การแข่งขันนั้นดูโปร่งใส และมีความยุติธรรมมากขึ้น แต่สำหรับพรีเมียร์ลีกนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นตำรับของฟุตบอลและเป็นประเทศที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่เริ่มต้นฟุตบอลแล้วนั้นด้วยหล่ะก้อ ชาติอังกฤษก็ได้ริเริ่มกติกาใหม่ขึ้นมาและนำมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี VAR 

ซึ่งตามกฎกติกาที่เค้ายอมรับกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วนั้น การใช้ VAR จะเป็นการดูภาพและส่งสัญญาณเตือนให้กับกรรมการในสนามเป็นผู้ตัดสินเด็ดขาด ซึ่งหากมีจังหวะคาบลูกคาบดอกนั้น กรรมการในห้อง VAR จะเรียกให้ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมและวิ่งมาดูจอข้างสนามด้วยตัวเองเพื่อเป็นการตัดสินชี้วัดเด็ดขาดว่า ควรจะตัดสินออกมาเช่นไร ซึ่งเทคโนโลยีนี้และกฎกติการนี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่อไม่ให้เสียความสนุกในการรับชมฟุตบอลในสนามหรือทางหน้าจอทีวี

เพื่อไม่ให้มีการถูกเป่าหยุดเกมบ่อยๆ จากผู้ตัดสินในสนาม และต้องเสียเวลาวิ่งมาดูจอทีวีที่ข้างสนาม ซึ่งแรกเริ่มที่เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้นั้น มีเสียงบ่นจากแฟนกีฬาฟุตบอลค่อนข้างมาก จึงทำให้มีการพัฒนาให้มีกรรมการสำห้อง VAR ขึ้นมา ซึ่งก็เป็นที่นิยมและนำมาใช้ในปัจจุบันจนทุกวันนี้ แต่พรีเมียร์ลีก หัวใสกว่านั้น และริเริ่มกติกาใหม่ ซึ่งยังคงใช้อยู่ในพรีเมียร์ลีกที่เดียว

ก็คือการให้อำนาจสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจจากภาพ VAR ให้เป็นหน้าที่ของกรรมการในห้องนั่นเอง เพื่อที่จะได้ช่วยไม่ให้เกมที่กำลังดำเนินอยู่เกิดการชะงัก หรือต้องหยุดการแข่งขัน เพราะหากมีจังหวะที่เป็นคาบลูกคาบดอกเมื่อไหร่นัก กรรมการ VAR จะพิจารณา และส่งสัญญาณให้กับผู้ตัดสินในสนามเพื่อทำการหยุดเกม และจะใช้เวลาสั้นๆ ในการตัดสินใจไม่เกิน หนึ่งนาที

และส่งสัญญาณลงว่าลูกนั้นหรือเหตุการณ์นั้นควรเป็นประตูหรือเป็นจังหวะฟาวล์หรือลูกล้ำหน้า หรือแม้แต่การให้จุดโทษ จวบจนกระทั้งยิงประตูเข้าไปแล้วและโดนริบคืน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการดีและสนุกไปอีกแบบ และไม่ต้องมานั่งเสียเวลา 3 ถึง 5 นาทีที่ผู้ตัดสินใจสนามจะต้องวิ่งมาข้างสนาม และมายืนดูภาพรีเพลย์ฉายซ้ำไปซ้ำมา แล้ววิ่งกลับลงไปที่สนามเพื่อตัดสินว่าเหตุการณ์นี้เป็นอย่างไร ซึ่งก็ถือว่าตกยกความดีความชอบให้กับสมาคมฟุตบอลอังกฤษเลยทีเดียว และเชื่อว่าการตัดสินแบบนี้จะเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน

 

ขอบคุณ sagame  ที่ให้เรื่องราวดีๆมานำเสนอ

เรื่องนี้ถูกเขียนใน กีฬาทั่วไป และติดป้ายกำกับ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร